โรคพาร์โวจะทำลายกระเพาะอาหารซึ่งเต็มไปด้วยเซลล์ที่กำลังแบ่งตัว อันเป็นเป้าหมายของไวรัส เยื่อบุกระเพาะอาหารจะระคายเคืองและเป็นแผล ทำให้สุนัขอาเจียน
6 คอยสังเกตอุจจาระของสุนัข. ถ้าสุนัขของคุณท้องเสีย (อุจจาระเป็นน้ำ) มีอุจจาระที่มีเมือกหรือเลือดปน หรืออุจจาระกลิ่นเหม็นผิดปกติ โรคพาร์โวอาจเป็นสาเหตุก็ได้ อาการเหล่านี้อาจทำให้สุนัขขาดน้ำได้ด้วย
7 คอยสังเกตว่าสุนัขมีอาการโลหิตจางหรือไม่. ไวรัสพาร์โวทำให้เลือดไหลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ ถ้าจะตรวจว่าสุนัขของคุณโลหิตจางหรือไม่ ให้กดเหงือกของมัน เหงือกของสุนัขที่สุขภาพดีจะกลายเป็นสีเดิมอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ก็ภายใน 2 วินาที ถ้าหากใช้เวลานานกว่านั้น สุนัขของคุณอาจเป็นโรคโลหิตจาง ภาวะโลหิตจางยังอาจทำให้เหงือกสีอ่อนเป็นพิเศษด้วยก็ได้
ส่วน 2 ของ 2:
วินิจฉัยโรคลำไส้อักเสบ
1 รีบพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ทันที. ยิ่งไปพบสัตวแพทย์ได้เร็วเท่าไหร่ สุนัขก็ยิ่งมีโอกาสรอดมากขึ้นเท่านั้น โชคร้ายที่เจ้าของสุนัขหลายรายไม่รู้จักอาการของโรคหรือรอนานเกินไปกว่าจะไปพบสัตวแพทย์ ฉะนั้นเมื่อพวกเขาจะพาสุนัขไปตรวจจริงๆ สุนัขก็เป็นโรคในขั้นสุดท้ายแล้ว และมักตายเพราะขาดน้ำ
2
ขอให้สัตวแพทย์ทำการทดสอบ ELISA-Antigen.
ในการวินิจฉัยโรคพาร์โว สัตวแพทย์ควรทำการทดสอบ Enzyme Linked ImmunoSorbent Assay (ELISA) ซึ่งเป็นการตรวจอุจจาระของสุนัขเพื่อหาเชื้อไวรัสพาร์โว สามารถทำการทดสอบนี้ได้ที่คลินิกสัตวแพทย์
การทดสอบ ELISA สามารถแสดงผลได้เร็ว แต่อาจไม่ถูกต้องเต็มที่ คำนึงด้วยว่าบางครั้งผลการทดสอบอาจเป็นลบทั้งที่สุนัขเป็นโรคจริงๆ
3 ทำการทดสอบอย่างอื่น. ถ้าทำการทดสอบ ELISA อย่างเดียวอาจไม่สามารถวินิจฉัยโรคพาร์โวได้ สัตวแพทย์อาจทำการทดสอบการจับกลุ่มของเม็ดเลือดแดง (hemagglutination test) ตรวจนับเม็ดเลือด และ/หรือเก็บตัวอย่างอุจจาระโดยตรง ผลการทดสอบเหล่านี้ เมื่อรวมกับผลการทดสอบ ELISA แล้ว จะบอกได้ว่าสุนัขของคุณติดเชื้อไวรัสพาร์โวหรือไม่
4
ทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ในการรักษา.
กำลังสืบราคาฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากหลายๆ ที่อยู่ใช่ไหม? รวมราคาฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากคลินิกและ รพ.
ผ้ารองรีดสะท้อนความร้อน
- รวมประสบการณ์ตรง กู้เงินติดล้อ รออนุมัติกันกี่วัน
- เฉลย team up ม.3 workbook
- สีสำคัญแค่ไหนกับงานออกแบบเสื้อสกรีน - AbovePrint
ส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่เป็นโรคพาร์โวมักเป็นลูกสุนัขที่มีอายุระหว่าง 6-20 สัปดาห์ และการติดเชื้อทั้งหมด 85% มักเกิดขึ้นในสุนัขที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ลูกสุนัขมักติดโรคมากที่สุดเพราะพวกมันมีเซลล์ที่กำลังแบ่งตัวอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมากในกระเพาะอาหารและลำไส้ และเซลล์เหล่านี้คือเป้าหมายหลักของเชื้อไวรัสพาร์โว หากสุนัขของคุณแก่กว่านี้ ก็ไม่น่าเป็นโรคพาร์โว (แต่ก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้นะ)
หากสุนัขที่เป็นแม่ของลูกสุนัขของคุณไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพาร์โว เชื้อไวรัสอาจแสดงตัวก่อนหน้านั้นอีก ภายในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของชีวิตเลยก็เป็นได้
2 คำนึงถึงพันธุ์ของสุนัขของคุณ. โรคพาร์โวมักเกิดขึ้นกับสุนัขบางพันธุ์มากกว่าพันธุ์อื่น เช่น ร็อตไวเลอร์ อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย โดเบอร์แมน และเยอรมันเชเพิร์ด ถ้าสุนัขของคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ให้คอยสังเกตอาการโรคลำไส้อักเสบเป็นพิเศษ
3 สังเกตพฤติกรรมสุนัข. โดยปกติแล้ว สัญญาณแรกของโรคพาร์โวคืออาการเฉื่อยชา ลูกสุนัขของคุณอาจมีแรงน้อยลง จนสุดท้ายเข้าไปนอนในมุมและอยู่เฉยๆ ความเฉื่อยชานี้มักตามมาด้วยอาการอ่อนแรงและเบื่ออาหาร
4 สังเกตว่าสุนัขมีไข้หรือไม่. สุนัขที่เป็นโรคลำไส้อักเสบมักมีไข้สูงประมาณ 40-41 ºC
5 คอยสังเกตถ้าสุนัขอาเจียน.