- “บอม ธนิน” รุดตรวจ “โควิด -19” หลังร่วมงาน “แมทธิว ดีน” 2 วันก่อน : PPTVHD36
- ไบโอมป่าสน (6 ต.ค. 2551) | สาขาชีววิทยา
ทะเลทราย (Desert)
พบได้ทั่วไปในโลก ในพื้นที่มี ปริมาณฝนตกเฉลี่ยน้อยกว่า 250 มม. ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าไบโอมอื่นๆ ทะเลทรายบางแห่งร้อนมากมีอุณหภูมิเหนือผิวดินสูงถึง 60 องศาเซลเซียสตลอดวัน บางวันบางแห่งมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น ทะเลทรายที่รู้จักกันโดยทั่วไป ได้แก่ ทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริกา ทะเลทรายโกบีในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและทะเลทรายโมฮาวีในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พืชที่พบเป็นพวกไม้พุ่มทนแล้ง พืชอวบน้ำ และพืชปีเดียว มีการป้องกันการสูญเสียน้ำ โดยใบลดรูปเป็นหนาม ลำต้นอวบ เก็บสะสมน้ำได้ดี สัตว์ส่วนใหญ่หากินกลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อนในตอนกลางวัน
สัตว์ที่พบมาก: อูฐ ตะกวดทะเลทราย โอนาเกอร์
พืชเด่น: กระบองเพชร อินทผาลัม
6. ทุ่งหญ้าสะวันนา (Savanna)
เป็นทุ่งหญ้าที่พบได้ในทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย และพบบ้างทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย ต้นไม้จะขึ้นอยู่ห่างกัน และมีพุ่มไม้หนามแหลมและหญ้าสูงขึ้นกระจายอยู่ทั่ว ปริมาณน้ำฝนที่ตลอดปีมีประมาณ 300-500 มม.
“บอม ธนิน” รุดตรวจ “โควิด -19” หลังร่วมงาน “แมทธิว ดีน” 2 วันก่อน : PPTVHD36
เฉลยข้อสอบO-net ( วิทยาศาสตร์ วิชา ชีววิทยา) ปีการศึกษา 2558 สอบกุมภาพันธ์ 2559
ดาวโหลดข้อสอบ O-net ปีการศึกษา 2558 สอบกุมภาพันธ์ 2559
ข้อ 1 (4)
ข้อ 2 (1)
ข้อ 3 (2)
ข้อ 4 (5)
ข้อ 5 (3)
ข้อ 6 (2)
ข้อ 7 (2)
ข้อ 8 (4)
ข้อ 9 (1)
ข้อ 10 (2)
ข้อ 11 (1)
ข้อ 12 (2)
ข้อ 13 (2)
ข้อ 14 (5)
ข้อ 15 (1)
ข้อ 16 (5)
ข้อ 17 (3)
ข้อ 18 (5)
สิ่งดีๆเกิดขึ้นได้เนื่องจากมีผู้สนับสนุน
๐ พันธมิตร ๐
HSK
MUIC
MSU EPT
ลิงก์ผู้สนับสนุน
ข้อ 11)
ลักษณะชีวนิเวศหรือไบโอมแบบใด ที่พบว่าพืชชนิดต่างๆ ได้เกิดวิวัฒนาการไปสู่สปีชีส์ใหม่มากที่สุด (O-net 58)
1. ไบโอมป่าดิบชื้น
2. ไบโอมทุนดรา
3. ไบโอมทะเลทราย
4. ไบโอมป่าสน
5. ไบโอมสะวันนา
คำตอบข้อ 11)
ตอบ (1) ไบโอมป่าดิบชื้น
เหตุผล
ไบโอมป่าดิบชื้น ภูมิอากาศร้อนและชื้น มีฝนตกตลอดทั้งปี ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 200-400 เซนตริเมตร ป่าชนิดนี้พบพืชและสัตว์หลากหลายนับพัน สปีชีส์เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง จึงมีโอกาสที่จะเกิดสปีชีส์ใหม่มากที่สุด
ข้อ 12) ชีวนิเวศหรือไบโอมแบบใดที่ไม่พบในประเทศไทย (O-net 58)
2. ไบโอมทุ่งหญ้าในเขตอบอุ่น
3. ไบโอมป่าสน
4. ไบโอมแหล่งน้ำจืด
5. ไบโอมแหล่งน้ำเค็ม
คำตอบข้อ 12) ตอบ (2) ไบโอมทุ่งหญ้าในเขตอบอุ่น
ไบโอมป่าดิบชื้น พบทั่วไปในประเทศไทย เช่น ที่เขาใหญ่
ไบโอมป่าสน พบที่ภูกระดึง
ไบโอมน้ำจืด พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำ
ไบโอมน้ำเค็ม พบได้ทั่วไปในแถบพื้นที่ ที่ติดกับทะเล
ส่วนไบโอมทุ่งหญ้าในเขตอบอุ่นเป็นทุ่งหญ้าที่มีต้นหญ้าสูงตั้งแต่ 1.
ต่อปีซึ่งถือว่าน้อย มักมี ฝนตกในช่วงฤดูร้อน และแห้งแล้งในฤดูหนาว นอกจากทุ่งหญ้าแล้ว ยังมีไม้พุ่มที่มีหนาม มีไม้ต้นทนแล้ง และทนไฟป่า ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่นนี้ เหมาะสำหรับการทำกสิกรและปศุสัตว์เพราะดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีหญ้านานาชนิดขึ้นอยู่ ส่วนใหญ่มี การทำเกษตรกรรม ควบคู่ในพื้นที่ด้วย
สัตว์ที่พบมาก: ช้าง ม้าลาย สิงโตในแอฟริกา หมีโคอาลา จิงโจ้ และนกอีมูในออสเตรเลีย
พืชเด่น: เบาบับ (baobab) กระถิน (acacia)
พืชเกษตรเด่น: ทานตะวัน ไอริส ดอกไม้ป่ารานันคูลัส หญ้า
3. ทุนดรา (Tundra)
มี ฤดูหนาวค่อนข้างยาวนาน ฤดูร้อนช่วงสั้น ๆ ลักษณะเด่นคือ ชั้นของดินที่อยู่ต่ำกว่าผิวดินชั้นบนลงไปจะจับตัวเป็นน้ำแข็งถาวร ไบโอมทุนดราพบใน ตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเซียเหนือ ขึ้นไปจนถึงขั้วโลก เช่นพื้นที่ของรัฐอะลาสก้า และไซบีเรีย น่าจะ พบพืชและสัตว์อาศัยอยู่น้อยกว่าไบโอมอื่นๆ ปริมาณหยาดน้ำฟ้าประมาณ 500 มม. ต่อปี ชุมชนแบบทุนดราเป็นชุมชนแบบง่ายๆ ไม่ยั่งยืนและไม่สมดุล ในช่วงฤดูหนาวสัตว์จะจำศีลหรือหลบอยู่ใต้หิมะ พืชหยุดชะงักการเจริญเติบโต ในฤดูร้อนน้ำแข็งที่ผิวหน้าดินละลาย แต่เนื่องจากน้ำไม่สามารถซึมผ่านลงไปในชั้นน้ำแข็งได้จึงท่วมขัง อยู่บนผิวดิน ทำให้ปลูกพืชได้ ในระยะสั้น ๆ
สัตว์ที่พบมาก: กวางคาริบู กวางเรนเดียร์ กระต่ายป่าขั้วโลก หนูเลมมิง สุนัขป่าขั้วโลก นกทามิแกน นกเค้าแมวหิมะ และแมลงที่อพยพเข้ามาในฤดูร้อน
พืชเด่น: ไลเคนส์ มอส กก หญ้าเซดจ์(Sedge) และไม้พุ่มเตี้ย เช่น วิลโลแคระ
4.
ไบโอม (biomes) หรือชีวนิเวศ คือ ระบบนิเวศใดก็ตามที่มีองค์ประกอบของปัจจัยทางกายภาพ และ ปัจจัยทางชีวภาพ ที่คล้ายกัน เช่น มีอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณน้ำฝนที่ใกล้เคียงกัน มีชนิดของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ไบโอมบนบก ( Terrestrial biomes)
2. ไบโอมในน้ำ ( Aquatic biomes)
ไบโอมบนบก ( Terrestrial biomes)
1. ป่าไม้ผลัดใบในเขตอบอุ่น (Temperate deciduous forest)
พบกระจายทั่วไปใน ละติจูดกลาง ทั้งในเขตอบอุ่น และเขตร้อนของโลก เช่น ในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป ประเทศจีน และในประเทศไทย ป่าผลัดใบได้รับน้ำฝนประมาณ 600-2, 500 มม. ต่อปี ซึ่ง มีปริมาณความชื้นเพียงพอที่ต้นไม้ใหญ่จะเจริญเติบโตได้ดี และมี อากาศค่อนข้างเย็น พรรณไม้หลักเป็นไม้ต้นใบกว้าง ในป่าชนิดนี้ ต้นไม้จะทิ้งใบหรือผลัดใบก่อนฤดูหนาว และจะเริ่มผลิใบอีกครั้งเมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้ว โดยต้นไม้ที่พบมีหลากหลายทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม รวมถึงไม้ล้มลุก
สัตว์ที่พบมาก: กวางเอลก์ และสุนัขจิ้งจอก
พืชเด่น: ยูคาลิปตัส เมเปิล โอ๊ก
ตัวอย่างในไทย: ทุ่งแสลงหลวง พิษณุโลก
2. ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น (Temperate grassland)
รู้จักกันในชื่อทุ่งหญ้าแพรี่ (Prairie) ใน ตอนกลางของทวีปอเมริกาเหนือ ทุ่งหญ้าสเตปส์ (Steppes) ใน เขตยูเรเชีย และทุ่งหญ้าแพมพา (Pampa) ใน ทวีปอเมริกาใต้ สภาพภูมิอากาศมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 250 – 500 มม.
5-8 ฟุต แตกต่างกันไปตามปริมาณน้ำฝน หญ้าในเขตนี้จะมีรากที่หยั่งลึกมากทุ่งหญ้าเขตอบอุ่นที่สำคัญ ได้แก่ ทุ่งหญ้าสเตปส์ (Steppes) ในรัสเซีย ทุ่งหญ้าแพรี่ (Prairie) ในยุโรปตะวันตก เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทยจะไม่มีไบโอมในลักษณะนี้
ภาพ ทุ่งหญ้าแพรี่
ข้อ 13) ในการศึกษาระบบนิเวศในท้องถิ่น ข้อใดจับคู่ผิดระหว่างเครื่องมือและสิ่งที่ตรวจวัด (O-net 58)
1. เทอรโมมิเตอร์ วัดอุณหภูมิ
2. เซคิดิสก์ วัดระดับความลึกของน้ำ
3. ถุงลากแพลงก์ตอน เก็บตัวอย่างแพลงก์ตอนในน้ำ
4. กระดาษยูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอร์ วัดความเป็นกรด-เบส
5. เดนซิโอมิเตอร์ วัดความหนาแน่นของเรือนบอดไม้
คำตอบข้อ 13) ตอบ (2) เซคิดิสก์ วัดระดับความลึกของน้ำ
เซคิดิสก์ เป็นเครื่องมือวัดการส่องผ่านของแสงลงสู่แหล่งน้ำ
ภาพ เซคิดิสก์
ข้อ 14) สายใยอาหารที่ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตดังต่อไปนี้ นกหัวขวาน เหยี่ยว หนอนบุ้ง ไส้เดือนดิน และเชื้อรา การถ่ายทอดพลังงานเริ่มต้นจากสิ่งมีชีวิตในข้อใด (O-net 58)
1. นกหัวขวาน
2. เหยี่ยว
3. หนอนบุ้ง
4. ไส้เดือนดิน
5. เชื้อรา
คำตอบข้อ 14) ตอบ (5) เชื้อรา
จากข้อมูลสายใยอาหารที่กำหนดให้น่าจะเป็นสายใยอาหารที่เริ่มจากผู้ย่อยสลาย หรือที่เรียกว่า โซ่อาหารหรือสายใยอาหารแบบดีไทรทัส (detritus food chain and detritus food web) ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ย่อยสลายในนี้ คือตัวเลือกที่ (5) เชื้อรา
ข้อ 15) ข้อใดเรียงลำดับของพืชที่น่าจะพบเมื่อทำการเผาไร่ข้าวโพดแล้วปล่อยให้รกร้าง ได้อย่างถูกต้อง (O-net 58)
1.
ไบโอมป่าสน (6 ต.ค. 2551) | สาขาชีววิทยา
ลำต้นรูปทรงพิรามิดและแตกกิ่งก้านตามแนวราบโดยกิ่งที่อยู่ด้านล่างจะห้อยติดพื้นดิน fir จะมีส่วนที่คล้ายกับ spruce แต่ต่างกันตรงที่โคนของ fir จะตั้งตรงแต่โคนของ spruce จะห้อยลง
เอกสารอ้างอิง
The Coniferous Forest. (Online). Available: Moist Temperate Coniferous Forest Biome. Available:(Online). Available: Picea sp. Available: Abies sp. Available: Pinus sp. Available: Pine. Available: Hemlocks. Available: Retrived August 2008. 65, 505 total views, 9 views today
ให้น้ำเกาะส่วนผสม
7 หลังจากที่ฉีดน้ำลงไปแล้ว ส่วนผสมจะเริ่มจับตัวกัน ฉะนั้นรีบๆ หน่อยนะ. หยิบก้อนส่วนผสมบาธบอมขึ้นมาแล้วกดลงไปในช่องของถาดแช่น้ำแข็ง
8 กดส่วนผสมชั้นสุดท้ายลงไปบนสุด. โดยกดลงไปให้แรงๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
9 ทิ้งค้างคืนเอาไว้. ในวันต่อมามันก็จะแห้งแล้ว จากนั้นคุณก็สามารถแกะบาธบอมออกมาใช้งานได้แล้วล่ะ! เคล็ดลับ
ห้ามใส่น้ำตาลลงไปในบาธบอมเด็ดขาด! จะทำให้คุณติดเชื้อราในช่องคลอดได้ โดยให้ใช้ดีเกลือแทน
แป้งข้าวโพดจะทำให้ผิวของคุณนุ่ม แต่ก็อาจเป็นสาเหตุของเชื้อราในช่องคลอดได้
น้ำมันที่แนะนำให้ใช้ก็คือน้ำมันพืช รวมถึงน้ำมันมะพร้าว, น้ำมันอะโวคาโด, น้ำมันแอปปริคอท, น้ำมันสวีทอัลมอนด์ หรือน้ำมันมะกอก เหล่าน้ำมันที่ทำให้ผิวนวลเนียนก็ดีหมดแหละนะ! ตอนที่เติมส่วนผสมเปียกลงไปในส่วนผสมแห้ง ให้เติมลงไปช้าๆ และคอยผสมให้เข้ากันระหว่างที่กำลังเติมอยู่ด้วย
ไม่จำเป็นต้องใส่กลิ่นและสีถ้าไม่ต้องการ
ถ้าใช้แม่พิมพ์อันเล็ก ก็สามารถทำสบู่อโรม่าฟองฟู่แบบ 3 มิติออกมาได้เหมือนกันนะ
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 29, 966 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
- มุมไบ - วิกิพีเดีย
- ครั้งแรกของไทย...ผลงานจัดสวน The Calm of Bangkok คว้ารางวัลระดับโลกในงาน | RYT9
- “บอม ธนิน” รุดตรวจ “โควิด -19” หลังร่วมงาน “แมทธิว ดีน” 2 วันก่อน : PPTVHD36
- หลวง พ่อ หว่าง วัด ปาก คลอง ปราณ
ผสมเบกกิ้งโซดา กรดซิตริก แป้งข้าวโพด ดีเกลือ และนมผงให้เข้ากัน จะผสมกันด้วยเครื่องผสมหรือใช้มือก็ได้ ให้ผสมจนกว่าส่วนผสมจะเข้ากันได้อย่างดี
3 ตามด้วยส่วนผสมเปียกๆ. ค่อยๆ เทน้ำมันมะกอกและเนยโกโก้ลงไป ใช้มือผสมเบาๆ ให้เข้ากัน จากนั้นให้ใช้ขวดสเปรย์บรรจุสารสกัดจากต้นวิชฮาเซลฉีดลงไปในปริมาณเท่ากันกับน้ำอุ่น จนกว่าแป้งโดว์จะอัดกันแน่นพอที่จะกระชับให้เข้ากันได้ อย่าใส่ความชุ่มชื้นเข้าไปให้มากนัก เพราะมันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แป้งโดว์จะเกิดฟองฟู่ขึ้นก่อนที่จะเสร็จขั้นตอนเสียอีกน่ะสิ
4 เติมสีและกลิ่นตามลงไป. ใช้น้ำมันหอมระเหยสักหนึ่งชนิดหรือมากกว่านั้นเท่าที่ต้องการผสมลงไปในส่วนผสมก่อนหน้านี้ โดยใช้ประมาณ 6 -10 หยด โดยจำไว้ว่ากลิ่นเหล่านี้จะเข้มข้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อใส่ลงไปในอ่างน้ำอุ่นๆ แล้ว และสามารถเลือกสีผสมอาหารที่ชอบใส่ลงไปให้ต่างจากบาธบอมธรรมดาได้เช่นกัน
5 ใส่แป้งโดว์ลงไปในแม่พิมพ์. ใส่โดว์ในแม่พิมพ์รูปโดมหรือรูปทรงกลมเพื่อสร้างรูปร่างให้กับมัน ให้แน่ใจว่ากดเข้าไปจนแน่นเพื่อให้โดว์ติดกันดีและจะไม่แตกออกจากกันเมื่อมันแห้งตัวแล้ว
6 ปล่อยให้บาธบอมแห้ง. วางแม่พิมพ์ไว้ในบริเวณที่แห้งและเย็นอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จนความชื้นได้ระเหยไปจนหมด และเมื่อแตะดูก็รู้สึกว่ามันแห้ง นั่นแปลว่าสามารถแกะออกมาจากแม่พิมพ์ได้แล้ว
7 เก็บบาธบอมเอาไว้.
ข้าวโพด – หญ้า – แห้วกระเทียม – ไม้พุ่ม – ไม้ต้น
2. ข้าวโพด – แห้วกระเทียม – ไม้ต้น – ไม้พุ่ม – หญ้า
3. ข้าวโพด – ไม้ต้น – ไม้พุ่ม – แห้วกระเทียม – หญ้า
4. ข้าวโพด – หญ้า – ไม้พุ่ม – ไม้ต้น – แห้วกระเทียม
5.
ใส่บาธบอมทั้งหมดไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทจากความชื้นได้ เมื่อพร้อมที่จะใช้มันแล้ว แค่เพียงคุณใส่มันลงไปในอ่างน้ำก็สนุกกับอโรม่าฟองฟู่ใส่นมได้เลย! [3]
วิธีการ 4 ของ 4:
บาธบอมสมุนไพรหรือดอกไม้
กรดซิตริก 50 กรัม (สามารถหาได้จากส่วนผสมสำหรับทำไวน์ หรือตามร้านค้าทั่วไป)
โซดาไบคาร์บอเนต หรือเบกกิ้งโซดา 100 กรัม
น้ำมันหอมระเหย หรือน้ำหอมเก่าๆ
น้ำเปล่าในขวดสเปรย์ หรือจะใช้น้ำหอมก็ได้
ถาดใส่น้ำแข็ง
สีผสมอาหาร (ไม่จำเป็น)
สมุนไพรหรือกลีบดอกไม้แห้ง (ไม่จำเป็น) (เก็บจากสวนแล้วทิ้งไว้ให้มันแห้ง)
กากเพชรใช้แต่งหน้า (ไม่จำเป็น) ห้ามใช้กากเพชรที่ใช้กับงานประดิษฐ์เด็ดขาด ต้องเป็นกากเพชรสำหรับแต่งหน้าเท่านั้น
ชามพลาสติกขนาดกลาง
ถุงมือยาง (กรดซิตริกอาจทำให้ระคายเคืองได้)
2 ตวงกรดซิตริกและเบกกิ้งโซดา. ใส่ลงไปในชาม
3 ใช้นิ้วทำบ่อเล็กๆ ไว้ตรงกลางชาม. 4 เทน้ำมันหอมระเหยหรือน้ำหอมเก่าๆ ลงไป. ประมาณ 5 หยดหรือฉีดสเปรย์ 5 ครั้ง จากนั้นเทสีผสมอาหาร ตามด้วยใส่สมุนไพรหรือกลีบดอกไม้แห้งและกากเพชรแต่งหน้าลงไปถ้าต้องการ
5 ใส่ถุงมือยาง. ใช้นิ้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน ดูให้แน่ใจว่าสีผสมอาหารไม่จับตัวเป็นก้อนอยู่ในส่วนผสม
6 ใช้ขวดสเปรย์ฉีดน้ำลงไปในบนผสม 10 ครั้ง.
- รอก เรียว โกะ megaton ราคา